ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส Maktang ขนาด 40000 ลิตร รุ่น MT40000FBMF

ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส ตรา Maktang ขนาด 40000 ลิตร รุ่น MT40000FBMF โดยอาศัยจุลินทรีย์ และอากาศในการย่อยสลาย แข็งแรง ทนทาน ไม่มีการรั่วซึมแน่นอน ติดตั้งสะดวก ใช้ได้ทุกที่ คอนโด แฟลต โรงเรียน โรงงาน ราคาถูก บริการดี สอบถามได้ที่ Line : @maktang เบอร์ 085-4495429

Original price was: 346,000.00฿.Current price is: 224,900.00฿.

รหัสสินค้า: MT40000FBMF หมวดหมู่: ป้ายกำกับ: , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , ,

 

*** ขนาดของถังบำบัดน้ำเสียสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้า

ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส ตรา Maktang 40000 ลิตร

คุณสมบัติของ ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส Maktang ขนาด 40000 ลิตรทรงแคปซูลขนาดใหญ่

  • ถังบำบัดน้ำเสีย ขนาดใหญ่ผลิตจากวัสดุเส้นใยไฟเบอร์กลาส (FRP) มีความแข็งแรง ทนทาน
  • ถังบำบัดน้ำเสีย ใช้วัสดุไฟเบอร์กลาสที่ใช้ในการผลิต ได้รับการรับรองมาตราฐาน มอก.435-2548
  • จะใช้ในโครงการงานก่อสร้างที่ขนาดใหญ่ ที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมากเช่น อพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียม โรงแรม โรงเรียน โรงงานอุตสาหกรรม หน่วยงานเอกชน สถานที่ราชการขนาดใหญ่ เป็นต้น
  • ถังบำบัดน้ำเสีย มีขนาดใหญ่จึงสามารถรองรับปริมาณน้ำเสียในแต่ละวันได้ปริมาณที่มาก

หลักการทำงานของ ถังบำบัด น้ำเสียแบบเติมอากาศทรงแคปซูลภายในถังบำบัด

แบ่งออกมาเป็น 3 ช่อง ได้แก่

ช่องส่วนเกรอะ หรือส่วนแยกกากตะกอน ทำหน้าที่คอยแยกกากอินทรีย์สารตะกอนของเสียที่มีขนาดใหญ่ ให้ตกลงสู่ก้น ถังบำบัด ส่วนตะกอนที่มีขนาดเล็กจะล้นไปสู่ช่องต่อไปก็คือช่องส่วนเติมอากาศ

ช่องส่วนเติมอากาศ ทำหน้าที่รับน้ำเสียจากช่องส่วนเกรอะ นำมาบำบัดโดยใช้จุลินทรีย์ช่วยในการย่อยสลายของเสีย โดยใช้ปั๊มเติมอากาศ ส่งอากาศเข้ามาภายในถัง ผ่านทางท่ออากาศ การใช้ปั๊มเติมอากาศนี้ทำให้จุลินทรีย์เติบโตได้ดีและกินของเสียได้ปริมาณที่มาก อีกทั้งทำให้เกิดกลิ่นรบกวนที่น้อยกว่า หรืออาจจะไม่มีกลิ่นเลย

ช่องส่วนตกตะกอน ทำหน้าที่คอยตกตะกอนที่ยังหลงเหลืออยู่จากการบำบัดของช่องส่วนเติมอากาศ เพื่อให้น้ำที่ไหลออกจาก ถังบำบัด ไปยังบ่อพักน้ำเสีย หรือแหล่งน้ำสาธารณะ เป็นน้ำที่มีความสะอาด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ช่องนี้ยังติดตั้งปั๊มดูดตะกอนย้อนกลับ สำหรับดูดตะกอนที่เหลืออยู่ ให้ย้อนกลับไปยัง ถังบำบัด ช่องแรก (ช่องส่วนเกรอะ) เพื่อทำการบำบัดอีกรอบหนึ่ง

หลักการทำงานของ ถังบำบัด น้ำเสียเติมอากาศ

  • ทำหน้าที่โดยเริ่มจากขั้นตอนการแยกกากตะกอนหนัก (SEPTIC) บำบัดมายังขั้นตอนการกรองแบบเติมอากาศ (AERATION FILTER) ซึ่งอาศัยกระบวนการย่อยสลายโดยใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย พร้อมกับใช้วิธีเครื่องเติมอากาศ เข้าไปเพิ่มอ๊อกซิเจนใน ถังบำบัด ซึ่งจะทำให้การบำบัดมีประสิทธิภาพได้ดีเมื่อใช้อากาศเติมสู่ระบบ ทำให้จุลินทรีย์สามารถทำงานและบำบัดสารอินทรีย์กากของเสียได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ได้ค่าน้ำที่ออกมาได้ตามมาตรฐานตามที่หน่วยงานกรมควบคุมมลพิษกำหนด อีกทั้งยังรักษาสิ่งแวดล้อมก่อนปล่อยน้ำเสียออกจากถังเป็นน้ำที่มีคุณภาพ

ข้อแนะนำในการวางตำแหน่งติดตั้ง ถังบำบัด น้ำเสียเติมอากาศ

  • ตรวจสอบตำแหน่งที่จะเดินท่อเติมอากาศรวมถึงตำแหน่งวางปั๊มไม่ควรห่างจากตัวถังมากนักเพราะอาจมีผลต่อแรงอัดอากาศที่ลดลงเมื่อระยะห่างระหว่างถังกับปั๊มอยู่ไกลกันและควรไว้ในที่ร่ม
  • ในกรณีมีตู้คอนโทรลปั๊มควรตรวจสอบตำแหน่งที่จะติดตั้งตู้ก่อนและควรไว้ในที่ร่มหรือมีหลังคากันแดดและฝนเพื่อยืดอายุการใช้งาน
  • ท่อเข้าออกสั่งได้มาตรฐานโรงงานและสั่งพิเศษ (ติดต่อฝ่ายขาย)
  • ควรติดตั้งภายนอกตัวอาคาร เพราะสามารถทำการติดตั้งและดูแลรักษาได้ง่าย
  • ควรติดตั้งใกล้ห้องส้วมและท่อระบายน้ำสาธารณะ เพื่อลดปัญหาการอุดตันในท่อ
  • หากติดตั้งในอาคารให้แยกโครงสร้างฐานรากของ ถังเกรอะ ออกจากฐานรากของอาคาร

*** หากที่พื้นที่ในการวาง ถังเกรอะ มีจำกัด ทางบริษัทฯ สามารถสั่งผลิตถังได้ตามความเหมาะสมของหน้างาน โดยทางลูกค้าสามารถติดต่อฝ่ายขายให้ออกแบบคำนวณ ความกว้างและความยาวของ ถังเกรอะ ให้เหมาะสมกับการใช้งานจากพื้นที่หน้างานจริงได้ ***

วิธีการติดตั้ง ถังบำบัด น้ำเสียแบบเติมอากาศมีขั้นตอนตามลำดับต่อไปนี้

  1. ขุดหลุมขนาด กว้าง X ยาว X สูง ให้เหมาะสมกับขนาดถังฐานรากและระดับท่อ เข้า – ออก
  2. (ดูแคตตาล็อคและตารางแต่ละรุ่น) อาจใช้เสาเข็มตามวิศวกรระบุ แล้วรองพื้นด้วยทรายและเทคอนกรีตเสริมเหล็ก หรืออาจใช้เพียงคอนกรีตหยาบ 1:3:5 หากสภาพดินรับแรงดี
  3. ยกถังวางลงในหลุม จัดระดับถังให้เหมาะสมท่อเข้า – ออก จะต้องไม่กดลึกกว่าระดับพื้นดินเกินกว่า 0.50 ม. หากฝังถังลึกเกินไปถังจะเสียหายจากน้ำหนักดินที่กดทับได้ ใช้ลวดสลิงดึงรัดรอบถัง กันถังเคลื่อนและถังลอย แล้วเติมน้ำให้เต็มถังแล้วจึงกลบด้วยทรายหยาบอัดแน่นรอบถังทุกชั้น ๆ ละ 50 ซม. จากฐานรากถึงผิวพื้นด้านบนจนประกอบท่อเข้า – ออก ด้วยข้อต่ออ่อนและท่ออากาศให้สูงเลยชั้นหลังคา , ดาดฟ้า
  4. ทำแนวกั้นชั่วคราวเป็นแนวเขตป้องกัน และทำป้ายระวัง ถังแซท โดยรอบถัง เพื่อป้องกันรถบด, หรือเครื่องจักรหนักเข้ามาเหยียบถังโดยรอบขอบถังอย่างน้อย 1.50 ม. ตลอดช่วงระยะเวลาก่อสร้าง
  5. เทพื้น ค.ส.ล. ขนาดไม่เกิน 80 X 80 X 10 ซม. และฝังแหวนรองฝา ทิ้งไว้ให้ปูนแห้งแล้วจึงวางฝาปิด เติมหัวเชื้อ เป็นเสร็จขั้นตอน

ข้อควรระวังในการติดตั้ง

  • การ ติดตั้งถังแซท อย่างถูกวิธีและปฏิบัติตามคำแนะนำ จะส่งผลให้ถังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ระดับของท่อน้ำเสียที่เข้า และท่อน้ำเสียที่ออกจากถัง ควรอยู่สูงกว่าระดับท่อระบายน้ำสาธารณะ
  • การฝังท่อร้อย(Sleeve) ที่คานชั้นล่างจะช่วยทำให้ระดับถังที่ติดตั้งไม่ลึกมากเกินไปและ ทำให้การระบายน้ำสะดวกขึ้น
  • ความลาดเอียงของท่อที่เข้า และ ท่อที่ออกจากถัง ไม่น้อยกว่า 1 : 100 หรือมีความสูงต่างกัน 1 เซนติเมตร ต่อความยาว 1 เมตร หากท่อน้ำเสียยาวมาก (เกิน 4 เมตร) ให้เพิ่มช่องล้างท่อ(FCO) ที่ต้นท่อ หรือใช้บ่อพักทุกระยะ 8 เมตร
  • การยก ถังแซท ควรยกโดยใช้ลวดสลิงรองรับถัง โดยใช้รถยกที่ออกแบบไว้รับน้ำหนักโดยเฉพาะห้ามยกที่ท่อเข้า – ออกซึ่งอาจทำให้ท่อหักได้
  • ห้ามติดตั้งถังในระดับท่อเข้าถึงพื้นผิวดินความลึกเกินกว่า 50 ซม.ไม่ควรก่ออิฐฉาบปูนเป็นคอถังเพราะมีน้ำหนักกดทับถังมาก กรณีมีความจำเป็นต้องติดตั้งลึกเกินกว่าที่กำหนด ให้ใช้ทรายหยาบอัดแน่นด้วยคนและเครื่องตบอัดทรายรอบ ๆ ถัง ตั้งแต่ฐานรากจนถึงผิวดินชั้นบนสุด (เติมน้ำให้เต็มถังและบดอัดทรายพรมน้ำสลับกันทุกระยะความสูง 50 ซม.จนเต็มถัง พื้นผิวดินชั้นบน)
  • บริเวณที่ติดตั้งถังต้องทำแนวรั้วชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้มีรถยนต์ รถบรรทุก หรือวัสดุหนักเข้าไปเหยียบหรือกดทับบริเวณใกล้เคียงโดยเด็ดขาด(ยกเว้นที่การทำโครงสร้างช่วยรับน้ำหนักไว้)
  • การต่อท่อระบายอากาศ (V 2) ให้สูงเหนือชั้นหลังคาแยกต่างหากออกจากท่อระบายอากาศ (V 1) ของอากาศ จะช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • อุปกรณ์ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งปั๊มเติมอากาศ และตู้คอนโทรล ควรอยู่ในห้องควบคุมหรืออยู่ในที่ร่มห่างจะความชื้น เพื่อยืดอายุการใช้งานที่นานขึ้น

การดูแลรักษาหลังจากติดตั้ง ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส และเริ่มใช้งาน

  • ควรสูบตะกอนไปกำจัดปีละ 1 – 2 ครั้ง โดยสูบประมาณไม่เกิน 1/3 ของถังแล้วเติมน้ำ หลังจากนั้นให้ใส่หัวเชื้อจุลินทรีย์ใน ถังบําบัดน้ำเสีย เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์แทนของเก่าที่สูบออกไปให้การบำบัดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  • กำจัดตะกอน โดยการจ้างรถบริการดูดส้วม อย่างน้อยปีละ 1 – 2 ครั้ง ทั้งช่องแยกตะกอน และช่องกรอง หรือช่องเติมอากาศเพื่อให้ประสิทธิภาพการบำบัดดีขึ้น
  • ดูดตะกอนที่ก้นถังออกในปริมาณไม่เกิน 1/3 ของปริมาตรถัง (หากสูบมากเกินกำหนดถังอาจเสียหายได้) กรณีถังเติมอากาศให้สลับกันดูดจากช่องแยกตะกอน และช่องกรองเพื่อรักษาระดับน้ำระหว่างช่องยุบลงให้เท่า ๆ กันทำให้ ถังแซท มีอายุการใช้งานยาวนาน
  • ให้เติมน้ำเต็มถังทันที (สังเกตท่อน้ำล้นจะไหลออกลงบ่อพัก) แล้วจึงปิดฝาถังให้เรียบร้อย
  • กรณีถังเติมอากาศ ให้ตรวจสอบการทำงานของเครื่องเติมอากาศและเครื่องสูบตะกอนว่าทำงานตามกำหนดหรือไม่ รวมถึงตู้คอนโทรลจะเป็นตัวควบคุมการทำงานของปั๊มเติมอากาศ เพราะถังเติมอากาศต้องใช้อากาศเพื่อเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์ หากไม่มีเติมอากาศเติมลง ถังบําบัดน้ำเสีย เชื้อจุลินทรีย์บางส่วนอาจตายได้และในกรณีถ้าเครื่องเติมอากาศชำรุดเป็นระยะเวลา1-2วัน อาจส่งผลต่อค่าน้ำBODออกที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากขาดอากาศไปเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์(หากมีเสียงดังผิดปรกติจากปั๊ม ลมไม่ออก หรือสูบน้ำไม่ขึ้น ให้แจ้งฝ่ายบริการ)
  • ห้ามทิ้งเศษขยะ หรือของที่ไม่ย่อยสลาย ลงใน ถังแซท
  • การทำความสะอาดห้องน้ำทุกครั้ง ควรใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ควรล้างบ่อยและอย่าใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคชนิดรุนแรงไหลลง เพราะจะทำให้ถังทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ
  • กรณีถังดักไขมัน ให้ถอดตะกร้าเทขยะ และล้างตะกร้าทุกวัน หรือเมื่อขยะเต็มหรืออุดตัน(ซึ่งอาจทำให้ ถังบําบัดน้ำเสีย เสียหายได้ภายหลัง)

การรับประกัน ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส 40000 ลิตร Maktang รุ่น MT40000FB

  • รับประกัน 5 ปี ภายใต้เงื่อนไขการใช้งานปกติ

หมายเหตุ : ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดส่วนประกอบ อุปกรณ์ต่างๆและการรับประกันโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

รีวิว

ยังไม่มีบทวิจารณ์

มาเป็นคนแรกที่วิจารณ์ “ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส Maktang ขนาด 40000 ลิตร รุ่น MT40000FBMF”