ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส ตรา P&S ขนาด 40000 ลิตร
ถังส้วม มีขนาดความจุ 40000 ลิตร
ถังส้วม มีท่อน้ำเข้าขนาด 4-6 นิ้ว
ถังส้วม มีท่อน้ำออกขนาด 4-6 นิ้ว
เส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร
Air Blower 200 w 2 เครื่อง
ถังแซท มีขนาดความกว้าง 250 เซนติเมตร
ถังแซท มีขนาดความสูง 265 เซนติเมตร
ถังแซท มีขนาดความยาว 820 เซนติเมตร
คุณสมบัติของ ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส P&S ขนาด 40000 ลิตร
ถังแซท ผลิตด้วยไฟเบอร์กลาสเสริมชั้นดี (FRP) ผลิตด้วยระบบเครื่องจักรแบบพ้นไขว้ (Filament Cross Winding) ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน
ฝาปิดทำด้วย ABS หรือ ไฟเบอร์ลาส หรือ ฝาเหล็กหล่อ, ข้อต่ออ่อน
สายรัด หัวเชื้อเร่งจุลินทรีย์
ตัวกลาง (MEDIA), สลิงรัตถัง
ผนังของ ถังแซท มีความหนาพิเศษ แข็งแรงทนทาน โดยมีความหนา 8 มิล ขึ้นไป
ถังแซท ใช้วัสดุที่ผลิตได้มาตรฐาน มอก 435-2548 รับประกันคุณภาพสินค้า 5 ปี
ถังแซท ติดตั้งสะดวกรวดเร็ว ติดตั้งได้ทุกพื้นที่ที่เหมาะสม
หมดปัญหาเรื่องส้วมเต็มและส่งกลิ่นเหม็น
ประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา
ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส ตรา P&S (พีแอนด์เอส)
ภายใน ถังบำบัด น้ำเสีย แบ่งออกมาเป็น 3 ช่อง ได้แก่
ช่องส่วนเกรอะ หรือส่วนแยกกากตะกอน ทำหน้าที่คอยแยกกากอินทรีย์สารตะกอนของเสียที่มีขนาดใหญ่ ให้ตกลงสู่ก้น ถัง ZAD ส่วนตะกอนที่มีขนาดเล็กจะล้นไปสู่ช่องต่อไปก็คือช่องส่วนเติมอากาศ
ช่องส่วนเติมอากาศ ทำหน้าที่รับน้ำเสียจากช่องช่องส่วนเกรอะ นำมาบำบัดโดยใช้จุลินทรีย์ช่วยในการย่อยสลายของเสีย โดยใช้ปั๊มเติมอากาศ ส่งอากาศเข้ามาภายในถังผ่านทางท่ออากาศ การใช้ปั๊มเติมอากาศนี้ทำให้จุลินทรีย์เติบโตได้ดีและกินของเสียได้ปริมาณที่มาก อีกทั้งทำให้เกิดกลิ่นรบกวนที่น้อยกว่า หรืออาจจะไม่มีกลิ่นเลย
ช่องส่วนตกตะกอน
ทำหน้าที่คอยตกตะกอนที่ยังหลงเหลืออยู่จากการบำบัดของช่องส่วนเติมอากาศ เพื่อให้น้ำที่ไหลออกจาก ถัง ZAD ไปยังบ่อพักน้ำเสีย หรือแหล่งน้ำสาธารณะ เป็นน้ำที่มีความสะอาด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ช่องนี้ยังติดตั้งปั๊มดูดตะกอนย้อนกลับ สำหรับดูดตะกอนที่เหลืออยู่ ให้ย้อนกลับไปยัง ถัง ZAD ช่องแรก (ช่องส่วนเกรอะ) เพื่อทำการบำบัดอีกรอบหนึ่ง
หลักการทำงานของ ถังบำบัด น้ำเสียแบบเติมอากาศ ตรา PS
ทำหน้าที่โดยเริ่มจากขั้นตอนการแยกกากตะกอนหนัก (SEPTIC) บำบัดมายังขั้นตอนการกรองแบบเติมอากาศ (AERATION FILTER) ซึ่งอาศัยกระบวนการย่อยสลายโดยใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย พร้อมกับใช้วิธีเครื่องเติมอากาศ เข้าไปเพิ่มอ๊อกซิเจนใน ถัง ZAD ซึ่งจะทำให้การบำบัดมีประสิทธิภาพได้ดีเมื่อใช้อากาศเติมสู่ระบบ ทำให้จุลินทรีย์สามารถทำงานและบำบัดสารอินทรีย์กากของเสียได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ได้ค่าน้ำที่ออกมาได้ตามมาตรฐานตามที่หน่วยงานกรมควบคุมมลพิษกำหนด อีกทั้งยังรักษาสิ่งแวดล้อมก่อนปล่อยน้ำเสียออกจากถังเป็นน้ำที่มีคุณภาพ
ข้อแนะนำในการวางตำแหน่งติดตั้งถังบำบัดน้ำเสียเติมอากาศ
ตำแหน่งที่จะทำการติดตั้งถังโดยทั่วไปตำแหน่งของถังจะถูกออกแบบจะวิศวกรไว้เรียบร้อยแล้วในการออกแบบอาคาร หากยังไม่มีการออกแบบไว้ก่อน หรือต้องการติดตั้งถังเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ ควรให้พิจารณาดังต่อไปนี้
- ควร ติดตั้งถังแซท ใกล้ห้องส้วมและท่อระบายน้ำสาธารณะ เพื่อลดปัญหาการอุดตันในท่อ
- ท่อเข้าออกสั่งได้มาตรฐานโรงงานและสั่งพิเศษ (ติดต่อฝ่ายขาย)
- ในกรณีมีตู้คอนโทรลปั๊มควรตรวจสอบตำแหน่งที่จะติดตั้งตู้ก่อนและควรไว้ในที่ร่มหรือมีหลังคากันแดดและฝนเพื่อยืดอายุการใช้งาน
- หาก ติดตั้งถังแซท ในอาคารให้แยกโครงสร้างฐานรากของถัง ออกจากฐานรากของอาคาร
- ตรวจสอบตำแหน่งที่จะเดินท่อเติมอากาศรวมถึงตำแหน่งวางปั๊มไม่ควรห่างจากตัวถังมากนักเพราะอาจมีผลต่อแรงอัดอากาศที่ลดลงเมื่อระยะห่างระหว่างถังกับปั๊มอยู่ไกลกันและควรไว้ในที่ร่ม
- ควร ติดตั้งถังแซท ภายนอกตัวอาคาร เพราะสามารถทำการติดตั้งและดูแลรักษาได้ง่าย
*** หากที่พื้นที่ในการวาง ถังบำบัด มีจำกัด ทางบริษัทฯ สามารถสั่งผลิตถังได้ตามความเหมาะสมของหน้างาน โดยทางลูกค้าสามารถติดต่อฝ่ายขายให้ออกแบบคำนวณ ความกว้างและความยาวของ ถังบำบัด ให้เหมาะสมกับการใช้งานจากพื้นที่หน้างานจริงได้ ***
วิธีการติดตั้งถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศมีขั้นตอนตามลำดับต่อไปนี้
ขุดหลุมขนาด กว้าง X ยาว X สูง ให้เหมาะสมกับขนาดถังฐานรากและระดับท่อ เข้า – ออก
(ดูแคตตาล็อคและตารางแต่ละรุ่น) อาจใช้เสาเข็มตามวิศวกรระบุ แล้วรองพื้นด้วยทรายและเทคอนกรีตเสริมเหล็ก หรืออาจใช้เพียงคอนกรีตหยาบ 1:3:5 หากสภาพดินรับแรงดี
ยกถังวางลงในหลุม จัดระดับถังให้เหมาะสมท่อเข้า
- ออก จะต้องไม่กดลึกกว่าระดับพื้นดินเกินกว่า 0.50 ม. หากฝังถังลึกเกินไปถังจะเสียหายจากน้ำหนักดินที่กดทับได้ ใช้ลวดสลิงดึงรัดรอบถัง กันถังเคลื่อนและถังลอย แล้วเติมน้ำให้เต็มถังแล้วจึงกลบด้วยทรายหยาบอัดแน่นรอบถังทุกชั้น ๆ ละ 50 ซม. จากฐานรากถึงผิวพื้นด้านบนจนประกอบท่อเข้า
- ออก ด้วยข้อต่ออ่อนและท่ออากาศให้สูงเลยชั้นหลังคา , ดาดฟ้า
ทำแนวกั้นชั่วคราวเป็นแนวเขตป้องกัน และทำป้ายระวัง ถังบำบัด โดยรอบถัง เพื่อป้องกันรถบด, หรือเครื่องจักรหนักเข้ามาเหยียบถังโดยรอบขอบถังอย่างน้อย 1.50 ม. ตลอดช่วงระยะเวลาก่อสร้าง
เทพื้น ค.ส.ล. ขนาดไม่เกิน 80 X 80 X 10 ซม. และฝังแหวนรองฝา ทิ้งไว้ให้ปูนแห้งแล้วจึงวางฝาปิด เติมหัวเชื้อ เป็นเสร็จขั้นตอน
ข้อควรระวังในการติดตั้ง ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส PS
- บริเวณที่ ติดตั้งถังแซท ต้องทำแนวรั้วชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้มีรถยนต์ รถบรรทุก หรือวัสดุหนักเข้าไปเหยียบหรือกดทับบริเวณใกล้เคียงโดยเด็ดขาด(ยกเว้นที่การทำโครงสร้างช่วยรับน้ำหนักไว้)
- การต่อท่อระบายอากาศ (V 2) ให้สูงเหนือชั้นหลังคาแยกต่างหากออกจากท่อระบายอากาศ (V 1) ของอากาศ จะช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การ ติดตั้งถังแซท อย่างถูกวิธีและปฏิบัติตามคำแนะนำ จะส่งผลให้ถังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระดับของท่อน้ำเสียที่เข้า และท่อน้ำเสียที่ออกจากถัง ควรอยู่สูงกว่าระดับท่อระบายน้ำสาธารณะ
- การฝังท่อร้อย(Sleeve) ที่คานชั้นล่างจะช่วยทำให้ระดับถังที่ติดตั้งไม่ลึกมากเกินไปและ ทำให้การระบายน้ำสะดวกขึ้น
- การยก ถังบำบัดน้ำเสีย ควรยกโดยใช้ลวดสลิงรองรับถัง โดยใช้รถยกที่ออกแบบไว้รับน้ำหนักโดยเฉพาะห้ามยกที่ท่อเข้า
- ออกซึ่งอาจทำให้ท่อหักได้
- ห้ามติดตั้งถังในระดับท่อเข้าถึงพื้นผิวดินความลึกเกินกว่า 50 ซม.ไม่ควรก่ออิฐฉาบปูนเป็นคอถังเพราะมีน้ำหนักกดทับถังมาก กรณีมีความจำเป็นต้องติดตั้งลึกเกินกว่าที่กำหนด
- ให้ใช้ทรายหยาบอัดแน่นด้วยคนและเครื่องตบอัดทรายรอบ ๆ ถัง ตั้งแต่ฐานรากจนถึงผิวดินชั้นบนสุด (เติมน้ำให้เต็มถังและบดอัดทรายพรมน้ำสลับกันทุกระยะความสูง 50 ซม.จนเต็มถัง พื้นผิวดินชั้นบน)
- อุปกรณ์ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งปั๊มเติมอากาศ และตู้คอนโทรล ควรอยู่ในห้องควบคุมหรืออยู่ในที่ร่มห่างจะความชื้น เพื่อยืดอายุการใช้งานที่นานขึ้น
- ความลาดเอียงของท่อที่เข้า และ ท่อที่ออกจากถัง ไม่น้อยกว่า 1 : 100 หรือมีความสูงต่างกัน 1 เซนติเมตร ต่อความยาว 1 เมตร หากท่อน้ำเสียยาวมาก (เกิน 4 เมตร) ให้เพิ่มช่องล้างท่อ(FCO) ที่ต้นท่อ หรือใช้บ่อพักทุกระยะ 8 เมตร
การดูแลรักษาหลังจากติดตั้ง ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส และเริ่มใช้งาน
- กำจัดตะกอน โดยการจ้างรถบริการดูดส้วม อย่างน้อยปีละ 1 – 2 ครั้ง ทั้งช่องแยกตะกอน และช่องกรอง หรือช่องเติมอากาศเพื่อให้ประสิทธิภาพการบำบัดดีขึ้น
- ดูดตะกอนที่ก้นถังออกในปริมาณไม่เกิน 1/3 ของปริมาตรถัง (หากสูบมากเกินกำหนดถังอาจเสียหายได้) กรณีถังเติมอากาศให้สลับกันดูดจากช่องแยกตะกอน และช่องกรองเพื่อรักษาระดับน้ำระหว่างช่องยุบลงให้เท่า ๆ กันทำให้ ถังบำบัดไฟเบอร์กลาส มีอายุการใช้งานยาวนาน
- ให้เติมน้ำเต็มถังทันที (สังเกตท่อน้ำล้นจะไหลออกลงบ่อพัก) แล้วจึงปิดฝาถังให้เรียบร้อย
- ห้ามทิ้งเศษขยะ หรือของที่ไม่ย่อยสลาย ลงใน ถังบำบัดไฟเบอร์กลาส
- การทำความสะอาดห้องน้ำทุกครั้ง ควรใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ควรล้างบ่อยและอย่าใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคชนิดรุนแรงไหลลง เพราะจะทำให้ถังทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ
- กรณีถังดักไขมัน ให้ถอดตะกร้าเทขยะ และล้างตะกร้าทุกวัน หรือเมื่อขยะเต็มหรืออุดตัน(ซึ่งอาจทำให้ ถังบำบัดน้ำเสีย เสียหายได้ภายหลัง)
- กรณีถังเติมอากาศ ให้ตรวจสอบการทำงานของเครื่องเติมอากาศและเครื่องสูบตะกอนว่าทำงานตามกำหนดหรือไม่ รวมถึงตู้คอนโทรลจะเป็นตัวควบคุมการทำงานของปั๊มเติมอากาศ เพราะถังเติมอากาศต้องใช้อากาศเพื่อเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์ หากไม่มีเติมอากาศเติมลง ถังบำบัดน้ำเสีย เชื้อจุลินทรีย์บางส่วนอาจตายได้และในกรณีถ้าเครื่องเติมอากาศชำรุดเป็นระยะเวลา1-2วัน อาจส่งผลต่อค่าน้ำBODออกที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากขาดอากาศไปเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์(หากมีเสียงดังผิดปรกติจากปั๊ม ลมไม่ออก หรือสูบน้ำไม่ขึ้น ให้แจ้งฝ่ายบริการ)
- ควรสูบตะกอนไปกำจัดปีละ 1 – 2 ครั้ง โดยสูบประมาณไม่เกิน 1/3 ของถังแล้วเติมน้ำ หลังจากนั้นให้ใส่หัวเชื้อจุลินทรีย์ใน ถังบำบัดไฟเบอร์กลาส เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์แทนของเก่าที่สูบออกไปให้การบำบัดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การรับประกัน ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส 40000 ลิตร P&S รุ่น PS40Q
รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขการใช้งานปกติ
หมายเหตุ : ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดส่วนประกอบ อุปกรณ์ต่างๆและการรับประกันโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์